เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ลุย Townhall ปลุกพลังพนักงาน พร้อมประกาศผลการดำเนินงานโต 1.8 แสนล้านบาท

 เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ปลุกพลังพนักงานจัดกิจกรรมใหญ่ส่งท้ายปี TOWNHALL ย้ำจุดยืนด้วยกลยุทธ์ Lifetime Partner 24: Driving Growth ยกระดับการให้บริการ เน้นพัฒนากลุ่มธุรกิจที่ทำกำไรได้มากที่สุด และเพิ่มประสิทธิผลของการทำงานท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ตั้งเป้าปี 2024 เป็นท็อปแบรนด์ประกันแห่งเอเชีย ด้านการสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าที่พร้อมเดินหน้าเคียงข้างลูกค้าอย่างยั่งยืน พร้อมเผยผลประกอบการเจนเนอราลี่ กรุ๊ป 9 เดือนปี 2022 โตตามเป้ากว่า 1.8 แสนล้านบาท ด้วยสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสตลาดประกันทั่วโลก   

มร.มาร์โค เอนนีโล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ นำทีมผู้บริหารและพนักงาน จัดกิจกรรม “Generali Company Outing 2022” พร้อมประชุมพนักงานประจำปี (TOWNHALL) ประกาศนโยบายการดำเนินงานปี 2023 กับการเดินหน้าภายใต้กลยุทธ์ Lifetime Partner 24: Driving Growth มุ่งสู่การยกระดับการให้บริการอย่างมีคุณภาพและเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ  รวมถึงการพัฒนากลุ่มธุรกิจที่ทำกำไรได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของการทำงานท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยตั้งเป้าภายในปี 2024 เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ต้องขึ้นเป็นท็อปแบรนด์ประกันแห่งเอเชีย ด้านการสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าที่พร้อมเดินหน้าเคียงข้างลูกค้าอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ภายในงาน มร. มาร์โค ได้เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจของเจนเนอราลี่ กรุ๊ป ตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2022 ว่า “กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ (Generali Group) ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยการปรับเปลี่ยนแผนการตลาดที่รวดเร็วและทันต่อการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ เจนเนอราลี่ กรุ๊ป มีอัตราการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง มีความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยมีรายได้จากผลการดำเนินงานรวม (Operating Result) อยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% จากผลผลการดำเนินงานเชิงบวกของกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (P&C) คิดเป็นอัตราส่วนรวมอยู่ที่ 93.3% (Combined Ratio, +2 p.p.) พร้อมทั้งมีผลกำไรขั้นต้นจากธุรกิจใหม่ร้อยละ 5.42% (New Business Margin +0.68 p.p.) มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 2.3 ล้านล้านบาท (Gross Written Premium, +1.3%) ซึ่งได้แรงหนุนจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (+10.5%) ส่งผลให้กระแสเงินลงทุนไหลเข้าของธุรกิจประกันชีวิต (Life Net Inflows) อยู่ที่ 2.9 แสนล้านบาท สอดคล้องกับกลยุทธ์การปรับตำแหน่งพอร์ตธุรกิจประกันชีวิต โดยมีอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุน (Solvency Ratio) อยู่ในระดับแข็งแกร่งอย่างยิ่งที่ร้อยละ 223 ตอกย้ำความเข้มแข็งด้านสถานะเงินทุนของเจนเนอราลี่ กรุ๊ป ด้วยกลยุทธ์ที่สะท้อนถึงการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”