นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด พร้อมด้วย นายวฤต รัตนชื่น ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ ในฐานะ Project Management Office การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสำหรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ระหว่าง บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท กับ กฟผ. ที่จะร่วมกันพัฒนาและให้บริการผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาใช้บริการในบริเวณพื้นที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ของ กฟผ. โดยมีคณะผู้บริหารจากทั้งสององค์กร ร่วมลงนามและเป็นสักขีพยาน ณ อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี
นายวฤต รัตนชื่น ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ ในฐานะ Project Management Office กฟผ. เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ กฟผ. ได้ออกแบบและติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ในพื้นที่ที่ IMPACT นำเสนอ รวมถึงบริหารจัดการระบบสถานีให้มีความพร้อมและสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้บริการสถานีผ่านระบบออนไลน์ด้วย
สำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กฟผ. จะติดตั้งและเปิดให้บริการ 2 สถานี 13 ช่องจอด แบ่งออกเป็น 2 พื้นที่ คือ 1) บริเวณอาคารจอดรถในร่ม P1 อาคารชาเลนเจอร์ เป็นสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จด้วยความเร็วปกติ AC Normal Charge 9 ช่องจอด 2) บริเวณพื้นที่ลานจอดรถของโรงแรมโนโวเทล เป็นสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว DC Fast Charge 60 – 125 kW รวม 4 ช่องจอด ซึ่งจะทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะที่มีจำนวนหัวชาร์จมากที่สุดในจังหวัดนนทบุรี
กฟผ. ได้พัฒนา ติดตั้ง และเปิดให้บริการสถานีชาร์จ EV ภายใต้ชื่อแบรนด์ EleX by EGAT มาตั้งเเต่ปี 2564 เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยมีระบบนิเวศน์ด้านยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ได้แก่ เครื่องอัดประจุไฟฟ้า สถานีอัดประจุไฟฟ้า แพลทฟอร์มในการบริหารจัดการระบบสถานีอัดประจุไฟฟ้า และแอปพลิเคชัน “EleXA” ปัจจุบัน กฟผ. เปิดให้บริการสถานี EleX by EGAT และสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้วทั้งหมด 80 สถานีทั่วประเทศ ตั้งเป้าขยายมากกว่า 100 สถานีภายในสิ้นปี 2565 นี้ เพื่อให้ผู้ใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าเดินทางด้วยรถ EV ได้ทั่วประเทศ และใช้รถ EV ในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ