ธ.ก.ส. เฟ้นหาชุมชนอุดมสุขยั่งยืนยอดเยี่ยม ระดับประเทศ ประจำปี 2565
ธ.ก.ส. จัดประกวดชุมชนอุดมสุขยั่งยืน ระดับประเทศ ประจำปี 2565 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการยกระดับชุมชนอย่างยั่งยืน ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมประเพณี โดยค้นหาจากชุมชนอุดมสุข ธ.ก.ส. ที่มีการพัฒนาที่โดดเด่น จังหวัดละ 1 ชุมชน มาคัดเหลือภาคละ 3 ชุมชน รวม 27 ชุมชน แล้วนำชุมชนที่ชนะเลิศทั้ง 9 ภาค รวม 9 ชุมชน มาชิงชัยในระดับประเทศ ลุ้นรางวัลชนะเลิศ มูลค่า 100,000 บาท และรางวัลอื่น ๆ พร้อมโล่เกียรติยศ ติดตามรับชมผลงานชุมชนผู้เข้าประกวด 1 ธ.ค. นี้
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง
กรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และประธานอนุกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
เป็นประธานการจัดประกวดชุมชนอุดมสุขที่ยั่งยืน
ยอดเยี่ยม ประจำปีบัญชี 2565
โดยมีนายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. คณะผู้บริหารและพนักงานเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านระบบ VDO Conference
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.
เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.
มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากผ่านการพัฒนาชุมชน ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับสู่การเป็นชุมชนอุดมสุขอย่างยั่งยืน
โดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา ทั้งด้านการส่งเสริม สนับสนุน
กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การมีส่วนร่วมและการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน
จนสามารถจัดทำแผนงานโครงการหรือแผนธุรกิจชุมชนและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สาธารณชน
ธ.ก.ส. จึงจัด “โครงการประกวดชุมชนอุดมสุขยั่งยืนยอดเยี่ยม ระดับประเทศ ปี 2565” เป็นปีที่ 2 โดยคัดเลือกชุมชนอุดมสุข ธ.ก.ส. จากทั่วประเทศ เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนอื่น
ๆ ในการพัฒนาสู่ความยั่งยืนและเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง
สำหรับคุณสมบัติของชุมชนที่เข้าประกวด
ต้องเป็นชุมชนอุดมสุขที่มีผลประเมินอยู่ในระดับ A มีกิจกรรมขับเคลื่อนตามหลัก
BCG Model นำทรัพยากรท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต
และมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งการตัดสินในระดับประเทศจะใช้เกณฑ์
ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์ การตลาด การพัฒนาต่อยอด เพื่อสร้างงาน
สร้างอาชีพและรายได้ ด้านสังคมวัฒนธรรมประเพณีด้านการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่ เชื่อมโยง
BCG และทายาทสืบทอด ทั้งนี้ ในการจัดประกวด
แต่ละจังหวัดจะคัดเลือกชุมชนอุดมสุขดีเด่น อย่างน้อยจังหวัดละ 1 ชุมชน
เพื่อนำมาประกวดในระดับภูมิภาค รวม 9 ภาค โดยคัดเลือกชุมชนดีเด่นภาคละ 3 ชุมชน รวม
27 ชุมชน แล้วนำชุมชนที่ชนะเลิศทั้ง 9 ภาค รวม 9 ชุมชน มาคัดเลือกชุมชนอุดมสุขยั่งยืนยอดเยี่ยมระดับประเทศในรูปแบบ
New Normal โดยให้ชุมชนส่งรายละเอียดข้อมูลในการนำเสนอให้คณะกรรมการตัดสินการประกวดชุมชนอุดมสุขพิจารณาตามหลักเกณฑ์การประกวดชุมชนอุดมสุข
และนัดหมายผู้นำชุมชนนำเสนอและตอบข้อซักถามผ่าน ระบบ Google Meet
Conference ในวันที่ 1 ธันวาคม 2565
ในส่วนของชุมชนที่ชนะการประกวดในระดับประเทศ
รางวัลชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1
เงินรางวัล 70,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 50,000 บาท ส่วนรางวัลระดับภูมิภาค
รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 50,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 30,000
บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 20,000 บาท
พร้อมโล่เกียรติยศในทุกรางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 1,120,000 บาท
นอกจากนี้โครงการฯ
ยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิในหลากหลายสาขามาร่วมเป็นกรรมการตัดสิน ได้แก่
นางสาวลดาวัลย์ คำภา อนุกรรมการเศรษฐกิจฐานราก ธ.ก.ส. ผู้แทนสำนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
(สวทช.)
ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
(สำนักงาน กปร.) ผู้แทนวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
และผู้แทนกรมการพัฒนาชุมชน ทั้งนี้ สามารถติดตามการประกาศผลชุมชนที่ได้รับรางวัลในวันที่
1 ธันวาคม 2565 ผ่านทางเว็บไซต์ www.baac.or.th และ Facebook ฝ่ายพัฒนาลูกค้าและชุมชน (ฝลช.)