ทส.เฝ้าระวังหมอกควันข้ามแดน ประสานประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านสำนักเลขาธิการอาเซียน
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากสถานการณ์หมอกควันข้ามแดน และเฝ้าระวังจุดความร้อน (Hotspot) ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมดำเนินการประสานการแจ้งเตือนสถานการณ์หมอกควันข้ามแดน ไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน ผ่านกลไกสำนักเลขาธิการอาเซียน
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดี คพ. เปิดเผยว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ติดตามและให้นโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่กระทบต่อสุขภาพอนามัยพี่น้องประชาชน ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งมาจากปัญหาหมอกควันข้ามแดน ประเทศไทยได้อาศัยการเจรจาในเวทีอาเซียนภายใต้ข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรายงานสภาพปัญหา
นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า ตามข้อกำหนดของข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน มีการกำหนดการแจ้งเตือน แบ่งออกเป็น 4 ระดับ โดยพิจารณาจากสภาพอากาศและจำนวน Hotspot ในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ระดับ 0 สภาวะปกติ ระดับ 1 เข้าสู่ฤดูแล้ง ระดับ 2 มี Hotspot เกิน 150 จุด 2 วันติดต่อกัน และมีกลุ่มควันหนาแน่น สภาพอากาศแห้งแล้ง ประกอบกับมีลมซึ่งสามารถพัดกลุ่มควันเข้าประเทศสมาชิก และ ระดับ 3 มี Hotspot เกิน 250 จุด 2 วันติดต่อกัน และมีกลุ่มควันหนาแน่น สภาพอากาศแห้งแล้ง ประกอบกับมีลมซึ่งสามารถพัดกลุ่มควันเข้าประเทศสมาชิก และเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 สำนักเลขาธิการเซียนได้แจ้งยกระดับการแจ้งเตือนไปยังประเทศสมาชิกในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับ 2
ทส. ในฐานะเป็นหน่วยงานผู้ประสานงานของประเทศไทย นายวราวุธ ได้สั่งการให้ คพ. ติดตามและรายงานสถานการณ์ในประเทศตามแบบฟอร์มที่สำนักเลขาธิการอาเซียนกำหนดเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้สำนักงานเลขาธิการอาเซียนสรุปสถานการณ์ภาพรวมของทั้งภูมิภาค และแจ้งกลับไปยังประเทศสมาชิกให้ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาคต้องอาศัยความร่วมมืออย่างยั่งยืนจากทุกประเทศ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันสุขภาพ ในกรณีอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์หมอกควันข้ามแดน โดยสามารถติดตามคุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และแอปพลิเคชัน Air4Thai นายปิ่นสักก์ กล่าว