กระทรวงพลังงานหนุนเทคโนโลยีพลังงานสู่วิสาหกิจฯเลี้ยงจิ้งหรีด จ.ขอนแก่น ช่วยลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ชุมชน
กระทรวงพลังงานนำคณะสื่อมวลชนสัญจรเข้าเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอ ตำบลบัวใหญ่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีด้านพลังงานมาปรับใช้กับการเลี้ยงจิ้งหรีด ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของวิสาหกิจฯ และสามารถลดการใช้พลังงาน
นายสุรเดช เหลาพันนา พลังงานจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานให้กับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอ ซึ่งเป็นอีกกลุ่มวิสาหกิจที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้แก่ชุมชน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสถานีพลังงานชุมชนองค์การบริหารส่วนตำบลบัวใหญ่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ภายใต้กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก งบกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยวิสาหกิจฯ เลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอถือว่าเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดของประเทศไทยมีปริมาณการผลิตจิ้งหรีดรวมประมาณ 50 -60 ตัน/เดือน ซึ่งจิ้งหรีดถูกจัดเป็นแมลงเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สร้างรายได้แก่ประเทศและเกษตรกรของไทยในระยะยาว เนื่องจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO: Food and Agriculture Organization) ได้จัดให้แมลงเป็นแหล่งอาหารในอนาคตของโลก โดยปัจจุบันในภาพรวมของประเทศมีการส่งออกจิ้งหรีดทั้งในรูปแบบจิ้งหรีดผง จิ้งหรีดแปรรูป และจิ้งหรีดแช่แข็ง
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการผลิตจิ้งหรีดของชุมชนให้มีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนการผลิต และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น องค์การบริหารส่วนตำบลบัวใหญ่ ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานให้แก่วิสาหกิจฯ เลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอ ได้แก่ ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 3 x 4 เมตร จำนวน 1 ระบบ เพื่อลดระยะเวลาในการตากแผงไข่
ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบ On Grid ขนาด 10 กิโลวัตต์ สำหรับห้องเย็นที่มีส่วนช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้เกือบ 50% รวมทั้งชุดครอบและหัวเตาแก๊สประสิทธิภาพสูงจำนวน 4 ชุด เพื่อช่วยลดค่าก๊าซหุงต้มลง
นายเพ็ชร วงศ์ธรรม ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอ กล่าวว่าวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2558 สมาชิกทั้งหมด 31 คน ถือเป็นแหล่งผลิตจิ้งหรีดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและปริมาณความต้องการสินค้ายังมีในปริมาณที่สูง โดยมีการส่งสินค้าเป็นจิ้งหรีดสด และจิ้งหรีดแช่เข็ง ซึ่งขั้นตอนการเก็บรักษาคุณภาพจิ้งหรีดในห้องเย็น ต้องผ่านกระบวนการทำความสะอาด และการต้มให้สุกก่อน หลังจากต้มสุกแล้วนำจิ้งหรีดไปตากผึ่งให้แห้งหมาดๆ และทำการบรรจุถุง นำเข้าไปเก็บในห้องเย็นเพื่อรักษาคุณภาพ โดยการต้มจิ้งหรีดใช้ก๊าซหุงต้มทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาไม่แน่นอน ซึ่งการได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานมีส่วนช่วยลดต้นทุนจากกระบวนการผลิต อาทิ การนำระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ช่วยให้สินค้ามีความสะอาด และลดระยะเวลาในการตาก
ทั้งนี้ กลุ่มวิสาหกิจฯ ได้รับจิ้งหรีดจากสมาชิกที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นส่งมาเข้ากระบวนการผลิตและส่งจำหน่ายในแต่ละครั้งประมาณ 8 9 ตัน/ครั้ง สัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ปริมาณรวมผลิตได้ประมาณ 50 - 60 ตัน/เดือน ซึ่งชุมชนได้จำหน่ายราคาประมาณ 85,000 บาท/ตัน รายได้รวมประมาณ 4 5 ล้านบาท/เดือน โดยผลิตให้แก่บริษัทรับขายส่งเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์รายใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น และลูกค้ารายย่อยที่จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดอุดรธานี
ภาพรวมด้านพลังงานจ.ขอนแก่น
นายสุรเดช เหลาพันนา พลังงานจังหวัดขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ในภาพรวมของการส่งเสริมด้านพลังงานในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ตามแผนปฏิบัติราชการด้านพลังงาน พ.ศ. 2566 - 2570 “มุ่งสู่การเป็นเมืองพลังงานอัจฉริยะ คาร์บอนต่ำ อย่างยั่งยืนและปลอดภัย” โดยเน้นการส่งเสริมการเข้าถึงนวัตกรรมและการบริหารจัดการด้านพลังงาน
ที่ทันสมัยเชิงพื้นที่ และสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินการด้านพลังงาน เพื่อความยั่งยืน มั่นคงและปลอดภัย ซึ่งจังหวัดขอนแก่นมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (PEAK) 320.93 เมกะวัตต์ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าโดยรวม 941.12 เมกะวัตต์ โดยจังหวัดขอนแก่นมีศักยภาพด้านการผลิตการมากกว่าความต้องการใช้พลังงานอยู่ถึง 620.19 เมกะวัตต์ คิดเป็น 65.89%
สำนักงานพลังงานจังหวัดขอนแก่นขับเคลื่อนและมุ่งเน้นการบริการจัดการด้านพลังงานเชิงพื้นที่โดยให้การสนับสนุนส่งเสริมด้านพลังงานเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนในเชิงพื้นที่ ทั้งงบกระทรวงพลังงาน งบประมาณแผ่นดิน (งบจังหวัด/กลุ่มจังหวัด) โดยให้การส่งเสริมสนับสนุน เช่น ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์บ่อบาดาล จำนวนมากกว่า 700 แห่ง ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เคลื่อนที่ ขนาดไม่น้อยกว่า 320 วัตต์ จำนวน 25 คัน ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 3 x 4 เมตร จำนวน 29 แห่ง ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 2 x 2 เมตร จำนวน 25 แห่ง เป็นต้น
โดยภาพรวมสำนักงานพลังงานจังหวัดขอนแก่นให้การส่งเสริมสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนหรือเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานประมาณ 2,882,975 kWh/ปี หรือเทียบเท่า 245.94 toe/ปี คิดเทียบเป็นค่าใช้จ่ายสามารถลดต้นทุนการผลิตให้แก่กลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจจำนวน 14,126,577 บาท/ปี สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 482.04 tons of CO2e/ปี