ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดงานแสดงนวัตกรรมระดับโลก Innovation Summit World Tour 2024 เผยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดและความร่วมมือด้านความยั่งยืน

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำระดับโลกด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดการพลังงาน และระบบอัตโนมัติ เปิดงาน Innovation Summit World Tour เพื่อตอกย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการอย่างเร่งด่วน และการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน และการจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

หลังจากการรายงานภาวะโลกร้อนที่ได้ทำลายสถิติในปี 2566 เรากำลังเรียกร้องให้ภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ต่อวิกฤตด้านสภาพภูมิอากาศ ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมาก รวมถึงเพื่อเชื่อมโยงความก้าวหน้าและสร้างความยั่งยืน

ปีเตอร์ เฮอร์เว็ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค  กล่าว ด้วยนวัตกรรมและความร่วมมือกันเท่านั้น ที่เราจะสามารถปลดล็อกปัญหาและสร้างความหวังใหม่ในการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล การใช้พลังงานไฟฟ้า รวมถึงการลดคาร์บอน ซึ่งจะสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน เพราะเมื่อเราร่วมมือกัน ก็จะสามารถสร้างความมุ่งมั่นและผลักดันให้เกิดการลงมือปฏิบัติจริงได้

เฮอร์เว็ค เผยกับผู้เข้าร่วม Innovation Summit ที่ปารีส ด้วยการเรียกร้องให้ผู้นำระดับโลกจากอุตสาหกรรมต่างๆ เร่งสร้างทางลัดในการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล และเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงให้มีความร่วมมือกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านการเพิ่มผลิตภาพและความยั่งยืน

งาน Innovation Summit ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2559 โดยนำเสนอนวัตกรรม โซลูชั่น และความร่วมมือกัน เพื่อร่วมขับเคลื่อนอนาคตของระบบอัตโนมัติ การใช้พลังงานไฟฟ้า และการทรานส์ฟอร์มสู่ระบบดิจิทัล โดยในปีนี้ บริษัทได้จับมือกับลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงพันธมิตรและผู้นำในอุตสาหกรรมในกรุงปารีส เพื่อเข้าร่วมการประชุมใหญ่ การประชุมกลุ่มย่อย รวมถึงการประชุมแบบโต๊ะกลม มีทั้งการวิเคราะห์เจาะลึก การสร้างเครือข่าย และการพาชมนิทรรศการด้านนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน เป็นเวลา วัน

โซลูชั่นใหม่เพื่อแรงกระเพื่อม ที่ยิ่งใหญ่กว่า

ในงานนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มาพร้อมกับการเปิดตัวโซลูชั่นใหม่ที่ออกแบบมา เพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถวางกลยุทธ์ การทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล รวมถึงช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในการดำเนินงาน อีกทั้งยังช่วยเร่งคำมั่นสัญญาด้านความยั่งยืนให้เกิดเร็วขึ้น ซึ่งรวมถึง:

CONNECT: แพลตฟอร์มอัจฉริยะทางอุตสาหกรรม แบบ End to End ที่ผสานรวมข้อมูลด้านวิศวกรรมและการปฏิบัติงานเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งระบบและระบบนิเวศ โดยใช้ประโยชน์จาก AI และ เทคโนโลยีอัจฉริยะ digital twin เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจในการปลดล็อกศักยภาพและขับเคลื่อนความยั่งยืน เพื่อการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ

Resi9 Energy Center: การปรับปรุงระบบตู้ไฟฟ้าอัจฉริยะขนาดกะทัดรัด ใช้ได้กับตู้ไฟฟ้าที่มีอยู่ในบ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าการจ่ายไฟมีความปลอดภัย เนื่องจากบ้านมีการใช้ไฟฟ้าและติดตั้งพลังงานหมุนเวียนจำนวนมาก เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ รถยนต์ไฟฟ้า และไมโครกริด นอกจากนี้ เจ้าของบ้านยังหันมาสนใจเรื่องพลังงานหมุนเวียนกันมากขึ้น ทั้งในด้านการผลิตและการใช้พลังงาน ตู้ไฟฟ้าก็ต้องเผชิญกับภาระที่เพิ่มขึ้น และซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้น Resi9 Energy Center จึงผสานรวมระบบการจัดการพลังงานภายในบ้านให้ทำงานได้อย่างราบรื่น เพื่อให้สามารถควบคุม และปรับแต่งเพื่อจัดการพลังงานในบ้าน และเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นด้วย

การขยายพอร์ตโฟลิโอ eMobility: ในขณะที่การใช้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเครื่องชาร์จไฟฟ้าอยู่ที่บ้านเพียงครึ่งเดียวจากทั่วโลก (51%)  ดังนั้น Schneider Charge จึงเป็นโซลูชั่นการชาร์จสำหรับบ้านที่ล้ำสมัย มีความทนทาน คุ้มราคา และติดตั้งง่าย ครอบคลุมทั้งโซลูชั่นสำหรับสถานีชาร์จและจุดชาร์จ ไม่ว่าจะเป็น EcoStruxure EV Advisor และ EVLink Pro DC 180 kW ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดด้านการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และล้ำหน้าด้านการจัดการ EVLink Pro DC เหมาะสำหรับสถานีชาร์จในแบบ fast-charge ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้สูงสุด ในขณะที่ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า สำหรับ EcoStruxure EV Advisor ให้บริการในแบบ software-as-a-service เพิ่มความเสถียรและประสิทธิภาพของจุดชาร์จ โดยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถมองเห็นการใช้พลังงานและประสิทธิภาพการชาร์จ นอกจากนี้ ยังมีโซลูชั่นแบบโอเพ่นซอร์สที่ยืดหยุ่นและครบวงจร เหมาะสำหรับใช้กับ ยานพาหนะ ที่จอดรถ อาคารพาณิชย์ และที่พักอาศัย

โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่เสถียร นับเป็นสิ่งสำคัญในการเร่งให้เกิดการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ แต่ยังต้องใช้กำลังคนที่มีทักษะในการติดตั้งและการบำรุงรักษา วันนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ประกาศให้ Qmerit ซึ่งเป็นพันธมิตรในอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการจัดการสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ขยายตลาดไปยังตลาดยุโรป

ความร่วมมือเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย

การเป็นพันธมิตรและความร่วมมือในอุตสาหกรรมเดียวกันและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีความจำเป็นต่อการจัดการวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จึงได้ผนึกพลังของผู้นำในอุตสาหกรรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและสร้างความยั่งยืน ได้แก่

แรงกระเพื่อมด้านความยั่งยืน: โครงการประกวด Sustainability Impact Award ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เพื่อยกย่องคู่ค้า ลูกค้า และซัพพลายเออร์ ที่ลดการปล่อยคาร์บอนในการดำเนินงานของตนเองและของลูกค้า ด้วยการโชว์กรณีศึกษาความสำเร็จในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้พลังงาน และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล บริษัทต่างๆ สามารถเรียนรู้ได้ เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนในวงกว้าง และสร้างสรรค์นวัตกรรมเพิ่มเติม

การลดคาร์บอนในซัพพลายเชน: การเพิ่มเติมโครงการการลดคาร์บอนในซัพพลายเชนของชไนเดอร์ อาทิ โครงการMaterialize มีเป้าหมายที่จะรวมบริษัททรัพยากรและวัสดุที่สำคัญชั้นนำเข้าด้วยกัน เพื่อนำกลยุทธ์การลดคาร์บอนในขอบเขตที่ ไปใช้ และอำนวยความสะดวกในการทรานส์ฟอร์มสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยซัพพลายเออร์สามารถมีส่วนร่วมในข้อตกลงการซื้อพลังงานหมุนเวียน (PPA) เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วทั้งระบบทั่วโลก ซึ่งโดยทั่วไปคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของธุรกิจ โปรแกรมต่างๆ ยังคงขยายตัวต่อไปโดยร่วมกับ Edwards ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นสุญญากาศและการลดคาร์บอน โดยเข้าร่วมโปรแกรม Catalyze ของ ชไนเดอร์ โดยมุ่งหวังที่จะลดคาร์บอนในระบบทั้งหมดของเซมิคอนดักเตอร์ด้วยเช่นกัน

ความร่วมมือด้านศูนย์ข้อมูล: โครงการริเริ่มใหม่ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค และ Digital Realty สร้างขึ้นจากความร่วมมือด้านผู้เชี่ยวชาญศูนย์ข้อมูลมาตลอด 20 ปี และคาดว่าจะช่วยให้ Digital Realty ลดคาร์บอนที่สะสมไว้ได้ 50-70 เปอร์เซ็นต์ ภายในอุปกรณ์ LV, MV และอุปกรณ์ UPS แบบสามเฟส ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า พร้อมทั้งลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขตที่ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการทำงานร่วมกันของชไนเดอร์ อิเล็คทริค กับ NVIDIA ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล และขับเคลื่อนความก้าวหน้าใน Edge AI และเทคโนโลยี Digital Twin

Visitors: 2,130,921